ผ่านมาแล้วครึ่งปีเราก็ยังหนีไม่พ้น Covid-19 กัน ทริปต่างประเทศที่วางเอาไว้ก็เป็นอันพับเก็บไว้ลึกสุดในหัวใจไปก่อน เพราะฉะนั้นจุดหมายเลยเปลี่ยนเป็นที่พักผ่อนใกล้กรุงเทพ ขับรถไม่กี่ชั่วโมงก็ได้พักผ่อนย่อนใจได้เต็มที่ในเวลา 2 วัน 1 คืน ถ้าพร้อมแล้วเตรียมตัวไปหาที่ชาร์ตพลังกันเลยยยยยยยยยย!!!!!!
เดินทางเมื่อวันเสาร์ที่ 26 และวันอาทิตย์ ที่ 27 กันยายน 2563
เกาะแสมสาร
เริ่มต้นเดินทาง จุดหมายแรกคือ "เกาะแสมสาร" ซึ่งอยู่ในการดูแลของกองทัพเรือ หาดทรายสวย น้ำใส มีกิจกรรมให้ทำมากมายในราคาที่เป็นมิตรกับเงินในกระเป๋า
การเดินทาง: Google maps ไปยัง พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย
ก่อนอื่นเข้าไปที่พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย อ.สัตหีบ เพื่อทำการซื้อตั๋วเรือก่อน .
รอบเรือไป 09.00 / 10.00/ 11.00/12.00/13.00 รอบกลับ 12.30 / 13.30/ 14.30/15.30 /16.30 ขึ้นเรือแล้วจะมีบอกรอบอีกทีด้วยค่ะ
ควรไปก่อนรอบเวลาที่จะลงเรือ 45 นาที (เราไปรอบ9 โมง ควรถึงประมาณ 8.15)
ตรวจคัดกรองเบื้องต้นที่ทางเข้าจำหน่ายตั๋ว จะมีบัตรแจกมาให้หลังคัดกรองเสร็จ (ให้ตรวจทุกคนจะเช็คและเก็บบัตรก่อนลงเรือ ถ้าไม่มีบัตรคัดกรองต้องออกมาคัดกรองใหม่นะคะ)
บัตรผู้ใหญ่ราคา 300 บาท เด็กไม่เกิน 18 ปี ราคา 220 บาท (ราคา ณ เดือน กันยายน 2563)
จากนั้นขับรถจากที่จำหน่ายตั๋วเข้าไปยังท่าเรือเขาหมาจอ สามารถหาที่จอดรถริมทางได้เลย
Note: วันที่เราไปคนไม่เยอะนะคะ ไปถึงก็ซื้อตั๋วได้เลยแบบไม่ต้องต่อคิว อาจจะเป็นเพราะเป็นรอบเช้าด้วยหรือเปล่าไม่แน่ใจค่ะ
ก่อนเดินเข้าไปยังท่าเทียบเรือ จะมีตู้ฆ่าเชื้อโรคให้เดินผ่านก่อนด้วยค่ะ
เมื่อไปถึงจะเจอสะพานยาวเดินออกไปยังท่าเทียบเรือ ถ้ายังมีเวลาก็ไปเดินทางรูป เก็บภาพวิวสวยๆกันก่อน ขอบอกเลยว่าลมพัดเย็นสบายไม่ร้อนเลย และถ้าใครยังไม่ได้ทานอาหารเช้ามา ก็จะมีพี่ๆทหารมาบริการขาย ข้าวเหนียวหมูห่อละ 20 บาท และ น้ำกระเจี๊ยบ เก๊กฮวย น้ำส้ม ขวดละ 20 บาท ด้วยค่ะ กระซิบว่าอร่อยด้วยนะๆ
เมื่อใกล้ถึงเวลาเจ้าหน้าที่จะเรียก ให้คืนบัตรที่ได้รับมาจากจุดคัดกรอง และยื่นตั๋วเรือ เจ้าหน้าที่จะฉีกส่วนนึงไป (ถ้าไปกันหลายคน คนแรกถือตั๋วทั้งหมด คนสุดท้ายรับตั๋วคืนค่ะ) แล้วก็ลงเรือจับจองที่นั่ง ใส่เสื้อชูชีพกันให้เรียบร้อย บนเรือก็จะมีขายของกันด้วยเผื่อใครเมาเรือนะคะ ราคาไม่แพง20-25 บาท พี่ๆทหารก็ชวนคุยชวนเล่นขำขันกันระหว่างรอเรือออก เรือจะออกเวลาเป๊ะๆ เลยค่ะ (คาดคะเนจากสายตามีคนรวมเดินทางประมาณ 50 คน น่าจะได้ค่ะ)
TipS: ควรไปแสตนบายที่ท่าเทียบเรือก่อนเวลาลงเรือประมาณ 10-15 นาที
ใช้เวลาเดินทาง ไม่เกิน 15 นาที ก็ถึงเกาะกันแล้ววว เร็วมากยังไม่ทันได้เมาคลื่นเลยถึงแล้วอ่ะ55555
เมื่อมาถึงเดินขึ้นไปเลี้ยวซ้าย ไปฟังบรรยายกฎและข้อห้ามของบนเกาะก่อนนะคะ ไม่นานมากแปปเดียวเอง หลังจากนั้นก็ไปขึ้นรถเพื่อเดินทางจากหาดเทียนไปหาดลูกลมค่ะ มีรถรับส่งระหว่าง 2 หาด เพื่อไปทำกิจกรรม ดำน้ำ นั่งเรือท้องกระจก และพายเรือคายัคกันค่ะ
มาถึงปุ๊ปใครอยากทำกิจกรรมอะไรก็เดินมาจองกันก่อนได้เลย ซุ้มเดียวซื้อได้ทุกอย่าง ตั้งแต่กิจกรรม เสื่อ เตียงผ้าใบ แนะนำว่าให้ไปจัดการซื้อให้เรียบร้อยก่อนค่ะ เมื่อถึงเวลาเจ้าหน้าที่จะประกาศเรียกอีกที
ราคาค่าบริการต่อคน
ดำน้ำ 50 บาท รวมอุปกรณ์ดำน้ำ (Snorkel) และเสื้อชูชีพ
คายัค ชม.ละ 100 บาท ครึ่งชม. 50 บาท นั่งได้ 3 คน
เรือท้องกระจก 50 บาท
เสื่อ / เตียงผ้าใบ อย่างละ 20 บาท
อาหารและน้ำในราคาทั่วไป ไม่อัพราคาเพิ่มค่ะ
Note: ดำน้ำ กับ เรือท้องกระจก จะมีเป็นรอบเวลาไปนะคะ รอบเช้า กับ รอบบ่าย
Note: ทุกกิจกรรมมีพี่ๆทหารดูแลอย่างใกล้ชิด ชนิดที่ว่าสามารถให้ลูกหลานลงเล่นได้อย่างสบายใจเลยค่ะ ดูแลดีจริงๆไม่ว่าจะเลือกเล่นหรือทำกิจกรรมอะไร เพราะฉะนั้นสบายใจและไว้ใจได้เลย
เราได้ไปดำน้ำช่วงเวลา 10.20 ค่ะ ยังเหลือเวลาอยู่เลยเดินหามุมถ่ายรูปและเดินเที่ยวขึ้นไปบนจุดชมวิว แต่เราอ่ะขึ้นไปไม่ถึงบนยอดนะคะเพราะว่าเหนื่อยด้วย บวกกับเจ้าหน้าที่ประกาศเรียกเพื่อมารับอุปกรณ์ดำน้ำและก็ไปเรียนการใช้อุปกรณ์เบื้องต้นค่ะ
หลังจากนั้นก็จะพาเราเดินทางไปแถวเกาะหมึกด้วยเรือยางแบบหน่วยซีล จากใจคือเราชอบมาก เหมือนเป็นส่วนนึงในการปฏิบัติการอะไรซักอย่างแบบในหนัง 555555555
เดินทางไปแปปเดียวค่ะก็จะถึงที่หมายจะมีแพให้เราลงและทุ่นให้ว่ายอยู่แค่ในบริเวณ มีพี่ทหารดูแลกว่า 10 นาย ใครว่ายไปกลับมาไม่ได้เพราะเหนื่อย ก็สามารถขอความช่วยเหลือได้อย่างเต็มที่เลย
ใช้เวลาดำน้ำอยู่ประมาณครึ่งชม.ก็จะมีเรือมารับกลับ จากการสอบถามกับพี่ๆทหารแล้วเค้าบอกว่าถ้ายังไม่อยากกลับก็อยู่ต่อก่อนได้ มีเรือมารับได้ตลอดค่ะ
กลับจากการดำน้ำแล้ว ยังเล่นไม่หนำใจก็มาต่อกันที่พายเรือคายัคค่ะ จะมีซุ้มตั้งอยู่หน้าหาดไปจ่ายเงินตรงนั้นได้เลย พี่ทหารจะเอาเรือลงให้และสอนวิธีพาย พายไม่เป็นก็พายได้ค่ะ ถ้าเรากลับไม่ได้พี่ทหารจะเอาเรือยางออกไปช่วยเราเอง อย่างพวกเราพายเล่นกันก็พัดเข้าหาฝั่งตลอดจากที่ทหารนั่งดูก็ต้องยืนดูเพราะว่าพายออกไม่เท่าไรเข้าฝั่งอีกแล้วววว ดูเป็นภาระพี่เค้ากันมากอ่ะ5555555
หลังจากที่เล่นกันเต็มที่แล้วก็ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมตัวกลับกันค่ะ ก่อนที่จะถึงเวลาที่รอบเรือกลับจะมีประกาศบอกก่อนให้เตรียมตัวถ้าจะกลับเรือรอบนี้ ก็ไปขึ้นรถกลับไปหาดเทียน เพื่อรอลงเรือกลับได้เลยค่าาา
Breezebox cafe X Cactus
กลับขึ้นฝั่งมาถึงก็เป็นเวลาอาหารกลางวันพอดิบพอดี จุดมุ่งหมายต่อไปขอเราก็คือ " Breezebox cafe X Cactus " คาเฟ่สไตล์น่ารักที่คนรัก Cactus ไม่ควรพลาด ร้านเป็นสไตล์มินิมอล สบายตาตัดกับสีเขียวของเจ้าต้นกระบองเพชรน่ารักเป็นที่สุด ทางร้านมีทั้งอาหารและเครืองดื่มให้บริการ มีที่จอดรถสะดวกสบาย และที่สำคัญราคาไม่แพงด้วยค่ะ
พิกัด:
ส่วนในเรื่องของอาหารและเครื่องดื่ม บอกไว้ตรงนี้เลยว่าอร่อยและถูกปากมากๆ มีทั้งอาหารไทยและฝรั่ง เครื่องดื่มก็หลากหลาย สามารถเข้าไปดูเมนูกันได้ในเพจร้าน Breezebox cafe
มุมถ่ายรูปสวยๆเก๋ๆ หลากหลายมุม
Our Lunch
M Pattaya Hotel
Location:
หลังจากท้องอิ่มเป็นที่เรียบร้อยแล้วเราก็จะเดินทางเข้าที่พักกันค่ะ บอกไว้ก่อนเลยว่าทริปนี้ปลื้มใจในที่พักมากๆ ทั้งในเรื่องการบริการ ห้องนอน อาหารเย็น อาหารเช้า บาร์น้ำดื่ม และ สระว่ายน้ำ
การจองเราจองผ่าน เพจ : Makalius
หรือเพื่อนๆสามารถเข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ : Makalius
ซึ่ง Makalius เนี่ยจะมีโปรที่ดีลเด็ดๆไว้หลายโรงแรมให้เราเลือกได้ตามใจชอบ ชื่ออาจจะเรียกยากหน่อยสำหรับเอเจนซี่นี้แต่หลายคนคงเคยเห็นผ่านทาง Facebook การจองกับ Makalius ไม่ยากเลยค่ะ
เลือกหาโรงแรมที่เราต้องการ
แอดไลน์ หรือ Inbox สอบถามห้องว่างกับทางแอดมินก่อน
ถ้ามีห้องว่างตามที่เราต้องการก็กดซื้อได้เลย
จ่ายเงินได้หลายทาง ทั้งโอน และ บัตรเครดิค/เดบิต
คอนเฟิร์มกับเจ้าหน้าที่ ทางเจ้าหน้าที่จะส่ง Vocher มาให้เราเซฟเก็บไว้
จองเสร็จเรียบร้อยก็รอแค่คอนเฟิร์มห้องกับทางโรงแรมอีกทีก่อนเราเข้าพัก 7 วัน
การจองผ่านทาง Makalius ของเราคือไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่มหน้างานแล้วนะคะ เป็นราคา Net แล้วทุกอย่างตามที่ราคาโชว์หน้าเว็บเลย และขอคอนเฟิร์มว่าไม่โดนหลอกอย่างแน่นอน ไม่ได้สปอนเซอร์แต่เป็นผู้ใช้บริการจริงๆค่ะ
มาต่อกันที่ห้องที่เราจองไว้ค่ะ เราได้ทำการจองห้อง Junior suite สำหรับ2คน ราคา 2600.- กับ Family Suite สำหรับ3คน ราคา 2999.- ไว้ค่ะ ในโปรจะได้ตามนี้
ห้อง 1 คืนสำหรับ 2 คน (ห้อง Junior suite) สำหรับ 3 คน (ห้อง Family Suite )
รวม อาหารเย็น International BBQ Seafood Dinner Buffet
รวม อาหารเช้า Buffet
Welcome Drink
Late check-out ได้ถึง 15.00
มาถึงจอดรถปุ๊ป Bellboy ก็มารับเราทันทีถึงรถ พาไป Check-in ที่เคาเตอร์ พร้อมเสิร์ฟ Welcome Drink ที่เป็นน้ำอัญชันมะนาวแสนอร่อย
พวกเราได้ห้องพักที่ชั้น 6 คน เนื่องจากพักกัน 3 ห้อง ทางโรงแรมน่ารักมากจัดให้อยู่ชั้นเดียวกันทั้งหมดเลย ห้องก็จะแตกต่างกันไปค่ะ แต่สวยทุกห้อง เป็นโรงแรมที่ถ่ายรูปมุมไหนก็สวยอ่ะ สวยจริงๆ
Family Suite Room
ห้องแรกที่ขอนำเสนอคือห้อง Family suite สำหรับ 3 คนค่ะ ในห้องกว้างขวางมีสามเตียงแล้วยังมีมุมนั่งเล่น มีโซฟาเบส ใส่ไว้โดยที่ในห้องไม่แคบเลย มีชา กาแฟ ไดร์เป่าผม สบู่ ยาสระผม ตู้เซฟ อ่างอาบน้ำ Rain Shower อ่างล้างจาน ระเบียง ราวตากผ้า เรียกได้ว่าครบครันจริงๆ
Junior Suite Room
ห้องต่อมาเป็นห้องสำหรับ 2 คน มีชา กาแฟ ไดร์เป่าผม สบู่ ยาสระผม ตู้เซฟ อ่างอาบน้ำ Rain Shower ทุกอย่างคล้ายกับห้อง Family เลยค่ะไม่มีแค่เพียงอ่างล้างจานเท่านั้น
Fitness & Pool
นอกจากนี้ยังมีสระว่ายน้ำและฟิตเนตให้บริการกันอีกด้วย
Our Dinner
มาถึงช่วงเวลาที่รอคอยมื้อเย็นของเราวันนี้เราฝากท้องไว้กับ International BBQ Seafood buffet ที่รวมมาแล้วในโปรตอนจองห้องพัก
ห้องอาหารอยู่ตรงทางเข้าโรงแรมชั้น 1 ไปถึงแจ้งเลขห้องกับเจ้าหน้าที่ได้เลยค่ะ
อาหารของทางโรงแรมมีหลากหลาย สดใหม่ และ อร่อยค่ะ
ส่วนน้ำจะมีบริการเฉพาะน้ำเปล่า ชา และ กาแฟ / พวกน้ำอัดลม เบียร์ ไวน์ จะต้องจ่ายเพิ่มค่ะ
เปิดตั้งแต่ 17.00-22.00 นั่งชิลได้เรื่อยๆ ถ้าหากไม่ออกมาด้านนอก (ออกแล้วกลับเข้าไปไม่ได้)
โซนอาหารญี่ปุ่น
โซนสปาเก็ตตี้
โซน Seafood
โซนก๋วยเตี๋ยว
โซนนี้สามารถเลือกคีบผักได้ตามใจชอบ ให้เซฟลวกให้ได้เลยค่ะ น้ำก๋วยเตี๋ยวหอมอร่อยมากๆ
โซนอาหารไทย
โซนอาหารไทยจะมีให้เลือกหลายอย่าง
ปูผัดผงกะหรี่
กุ้งผัดซอสเปรี้ยวหวาน
ปลาชุบแป้งผัดพริก
ปลาหมึกพริกไทยดำสามรส
ข้าวผัด
ข้าวสวย
สลัดบาร์
โซนของหวาน และ ผลไม้
เค้กมินิ หลายรสชาติ กาแฟ ส้ม สตรอเบอรี่ บราวนี่ ช็อคโกแลต ใบเตย
เยลลี่
ทองหยิบ ทองหยอด
ฟรุ๊ตสลัด
ไอศกรีม
ผลไม้ แตงโม แคนตาลูป สับประรด
รับประทานอาหารกันแล้วก็ต้องปิดท้ายวันพักผ่อนดีๆแบบนี้ด้วยการจิบ Cocktail กันคนละแก้ว จะได้หลับฝันดีค่ะ
สั่งบริการจาก Room Services
ทางโรงแรมมีโปร ซื้อ 1 แถม 1 ตั้งแต่เวลา 17.00-20.00
Cocktail อร่อย และเข้มมากกกกกกกก เอาไป 100 คะแนนเลย
Our Breakfast
อาหารเช้าของทางโรงแรมเป็นแบบ Buffet เช่นกันค่ะ ตักทานได้อย่างหลากหลาย
บริเวณชั้น 1 ห้องเดียวกับที่ทานอาหารเย็น
ใช้ประตูติดกับลิฟต์ แทนการใช้ประตูด้านหน้า
แจ้งเลขห้องกับเจ้าหน้าที่
เปิดตั้งแต่ 06.00-10.00
โซน American breakfast
สามารถสั่งได้กับเซฟเลยค่ะ อยากทานแบบไหน ได้อาหารสดใหม่ ร้อนๆกันไปเลย อยากทานคู่กับอะไรก็สามารถ DIY ได้ตามใจชอบ มีทั้งหมูและไก่ สำหรับแฮมและไส้กรอก
โซนอาหารจานเดียว
โซนข้าวต้มไก่
โซนสลัด
โซนน้ำดื่ม
กาแฟ
ชา
น้ำส้ม
น้ำฝรั่ง
นมสด
โซนอาหารเช้า
ซีเรียลต่างๆ
ขนมปังปิ้ง
Croissant
ชีส และ เนย
เนื่องจากเป็นทริปชิลๆ เน้นพักผ่อนเป็นสำคัญ พวกเราจึงอยู่แต่ในโรงแรมจนเลยเที่ยงถึงจะออกมาหาคาเฟ่ร้านกาแฟ นั่งจิบกินลมชมวิวไปเรื่อยๆ
Back Street House
คาเฟ่ร้านน่ารักๆ ที่ตั้งอยู่ในซอยแถว Terminal 21 เป็นร้านกาแฟที่อยากแนะนำสำหรับคอกาแฟ เพราะทางร้านมีเมล็ดกาแฟหลากหลายสายพันธุ์ หลายวิธีการชง และเมนูของทางร้านยังแปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร เท่าที่ได้ลองสั่งชิมขอบอกเลยว่า อร่อยจริง ตามที่เจ้าของร้านเคลมมาเลยว่า ถ้าไม่อร่อยไม่เอามาขายแน่นอนนนน
ทางเจ้าของร้านจะเป็นคนแนะนำกาแฟแต่ละอย่างให้เราค่ะ สำหรับคนที่อยากลองแต่กลัวสั่งไม่ถูก แค่บอกไปว่าเราอยากได้แบบไหน หอม เข้ม เปรี้ยว พี่เจ้าของร้านจะแนะนำให้เราอีกทีค่าาาา
Menu
Our order
และพวกเราก็ขอจบการเที่ยวทริปแสมสาร-พัทยาไว้เท่านี้ค่าาาาาาา ทริปหน้าเราจะไปไหนกันต่อ ติดตามได้ใน Ladies & Gentle G กันเลยยยยยยยยย
Comentarios