สวัสดีค่ะ เริ่มต้นเดือนมีนาคมต้อนรับการเข้าสู่หน้าร้อนอย่างเต็มรูปแบบ Ladies&GentelG จึงขอพาทุกๆท่านไปแอ่วเหนือในเดือนที่ไม่มีความหนาวปกคลุม เปลี่ยนบรรยากาศการเที่ยวแบบกางเต้นท์ขึ้นดอย มาเที่ยวในแบบสโลว์ไลฟ์ กินลมชมวิวกันที่จังหวัดพะเยา
การเดินทาง
How to travel: เดินทางขาไปกับสายการบิน Thai Vietjet Flight VZ130 ออกเดินทางเวลาจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 06:40 ถึงท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย 07:55 โดยเครื่องบินแบบ Airbus A320
ขากลับ สายการบิน Airasia เที่ยวบิน FD4407 ออกเดินทางจากท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง 0935 ถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 1105 ตามเวลาตารางการบิน แต่เนื่องจากไฟล์ทมาเร็วมากค่ะ ลงจอดก่อนเวลา 30นาที
มาตรการการเดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
-สวมหน้ากากอนามัยตลอดระยะเวลาการเดินทาง
-มีจุดตรวจวัดอุณหภูมิตรงทางเข้าหลังจากตรวจบัตรประชาชนและBoarding Pass (จุดนี้เจ้าหน้าที่จะขอให้เราเปิดหน้ากากเพื่อเช็คหน้ากับบัตรประชาชน)
-ก่อนลงเกทจะมีการตรวจกระเป๋าอีกรอบ(จุดนี้เจ้าหน้าที่จะขอให้เราเปิดหน้ากากเพื่อเช็คหน้ากับบัตรประชาชน)
- Check-in หน้าเกท (จุดนี้เจ้าหน้าที่จะขอให้เราเปิดหน้ากากเพื่อเช็คหน้ากับบัตรประชาชน)
จากเชียงรายสู่พะเยา
เมื่อเดินทางถึงจังหวัดเชียงรายแล้วเราเดินทางกันต่อด้วยรถยนต์ส่วนตัวผ่านถนนหลวงหมายเลข 5023 เลี้ยวซ้ายวิ่งเข้าถนนหลวงหมายเลข 1020 เข้าถนนหมายเลข 1 ผ่านหน้าวัดร่องขุน ขับยาวๆจนถึงแยกอำเภอพาน แล้ววิ่งเข้าถนนหลวงหมายเลข 1126 จนเข้าสู่จังหวัดพะเยา
Hotel: ABIZZ Hotel Kwan Phayao
โรงแรม ABIZZ ที่ตั้งอยู่ตัวเมืองพะเยา ในระแวกกว๊านพะเยาค่ะ ราคาห้องจะอยู่ที่ 790.-ไม่มีอาหารเช้า
ทางโรงแรมมีตู้กดของอัตโนมัติอยู่ชั้นล็อบบี้ สามารถสั่งแกร็บมาทานที่ห้องได้
มีจักรยานให้เช่าปั่นบริเวณโดยรอบ
การเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดพะเยา ในช่วงcovid-19 จะมีความยากนิดนึงคะเนื่องจากแกร๊บคาร์มีไม่เยอะและในช่วงทุ่มนึงเป็นต้นไปจะไม่มีเลย แนะนำให้มีรถยนต์ส่วนตัวหรือเช่ารถมาจากเชียงรายเลยจะสะดวกมากกว่าค่ะ
แต่ขอเล่าความประทับใจของโรงแรมหน่อยค่ะ เนื่องจากที่เล่าไปด้านบนว่าไม่ค่อยมีแกร็บในช่วงทุ่มนึงเป็นต้นไปทำให้เราออกมาเที่ยวบริเวณกว๊านแล้วไม่มีรถกลับโรงแรมค่ะ กดรอหลายครั้งหลายคราวก็ไม่มีที่ท่าว่าจะมีรถมารับ เราเลยตัดสินใจโทรหาโรงแรมว่าพอสามารถเรียกรถให้เราได้มั้ยหรือมีรถสาธารณะให้เราเรียกกลับได้มั้ย แต่ไม่มีเลยค่ะ ทางโรงแรมเลยขับรถมารับเราเองเลย เป็นเรื่องที่น่าประทับใจมากๆเลยค่ะ
สถานที่ท่องเที่ยวเมืองพะเยา
วัดศรีโคมคำ
สถานที่เที่ยวที่แรกแวะไหว้พระที่วัดศรีโคมคำ วัดประจำคู่บ้านคู่เมืองพะเยา โดยตัววิหารหลวงเป็นปฏิมากรรมลายพันธุ์พฤษภาเต็มพื้นที่แตกต่างจากวิหารแบบล้านนาทั่วไป
ภายในวิหารหลวงประดิษฐานพระเจ้าตนหลวง พระพุทธรูปปางมารวิชัยศิลปะล้านนาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ
วัดติโลกอาร าม
วัดกลางน้ำกว๊านพะเยา เป็นอีกสถานที่นึงที่มาถึงพะเยาแล้วไม่ควรพลาด ด้วยการเดินทางเข้าไปที่วัดแบบไม่ซ้ำใครคือทางเรือโดยใช้เรือไม้พายโดยไม่มีเครื่องยนต์ คนละ50บาท สามารถซื้อตั๋วและดอกไม้ธูปเทียนได้ที่ท่าเรือ
พระพุทธรูปที่ประดิษฐานคือพระพุทธรูปศิลา เป็นพระพุทธรูปหินทรายปางมารวิชัย ศิลปะสกุลช่างพะเยา
บรรยากาศระหว่างนั่งเรือข้ามไปคือดีมากๆแนะนำให้มาในช่วงพระอาทิตย์ขึ้นหรือพระอาทิตย์ตกจะสวยงามมากๆค่ะ
เสร็จจากการไหว้พระกันแล้วเราสามารถเดินเล่นรอบกว๊านได้เลยค่ะ บริเวณโดยรอบจะมีทางเดินและเส้นทางสำหรับปั่นจักรยานที่เดินได้อย่างสะดวกสบายมากๆ บริเวณรอบๆจะมีการตกแต่งไว้เป็นระยะๆสามารถแวะถ่ายรูปได้ตามอัธยาสัย
เดินมาซักพักก็มาเจอของดีประจำจังหวัดค่ะนั้นก็คือ ยำกุ้งเต้นนั้นเอง
ยำกุ้งเต้นของจังพะเยามีความพิเศษตรงที่กุ้งเป็นๆขึ้นจากกว๊านนำมาล้างน้ำแล้วยำให้ค่ะ กุ้งก็ตัวใหญ่และเนื้อหวานมาก อยากให้ได้ลองกันนะคะทุกคนนนนน
อนุเสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง
เดินเลาะมาเรื่อยๆเราจะเจออนุเสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง ประดิษฐานอยู่ที่สวนสาธารณะเทศบาลเมืองพะเยา
มีดอกไม้ธูปเทียนให้สักการะพ่อขุนในราคา20บาทค่ะ
วันต่อมาเริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยการขี่จักรยานกินลมชมวิวจากโรงแรมมาที่กว๊านพะเยา การใช้จักรยานของที่นี้สะดวกมากเนื่องจากมีเลนน์จักรยานให้โดยเฉพาะ ขี่ง่ายและปลอดภัย
ขี่มาถึงบริเวณเลยท่าเรือวัดติโลกอารามมาจะมีร้านค้ามาตั้งขายของอาหารเช้า กันเรียงราย กินข้าวเช้าจิบกาแฟชมวิวกว๊านไปคือดีที่สุด บรรยากาศเหมาะแก่การฮิลลิ่งมากๆ
หลังจากนั้นเช็คเอาท์ออกจากโรงแรมไปต่อกันที่ วัดอีกแห่งนึงในจังหวัดพะเยา ซึ่งขอบอกก่อนเลยว่าพะเยาเป็นเมืองที่มีวัดเยอะมากๆ เยอะแบบที่มีวัดอยู่แทบทุกอำเภอ ขนาดเล็กใหญ่ต่างกันไป ในแต่ละวัดจะมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป อย่างเช่นวัดที่เราจะแนะนำต่อไปนี้ค่ะ
วัดศรีชุม
วัดที่มีจุดเด่นคือ วิหารสีขาวที่มีการก่อสร้างแบบศิลปะล้านนาผสมผสาน โดนการนำปูนไปปั้นhandmade แบบเชียงแสน และภายในแกะสลักด้วยไม้สักทองทั้งหลัง ด้านในมีพระพุทธรูปทันใจประดิษฐาเป็นพระประธาน ด้านล่างกำลังสร้างคล้ายกับเมืองบาดาลอยู่เป็นการแกะสลักแบบ handmade เช่นเดียวกับด้านบนพระวิหาร แต่ยังอยู่ในระหว่างการดำเนินการ
ไร่ภูกลองฮิลล์
สถานที่เหมาะไว้สำหรับพักผ่อนย่อนใจ เพราะด้านในมีทั้ง ร้านอาหาร คาเฟ่ สวนสัตว์ สวนน้ำ และ รีสอร์ทให้นักท่องเที่ยวสามารถมาพักผ่อนได้
ด้านในมีให้ซื้ออาหารป้อนน้องๆสัตว์เลี้ยงในราคาไม่แพงแค่อย่างละ 20 บาทเท่านั้น
เดินเล่นกันจนหน่ำใจแล้วอากาศร้อนๆแบบนี้ก็เริ่มเหนียวตัวกันแล้วใช่มั้ยค่ะ จากการวางแผน
มาเราจะไปต่อกันที่น้ำตกจำปาทองค่ะ เป็นที่เล่นน้ำนั่งเล่น นอนเล่นได้ แต่ด้วยความที่มาได้ตรงจังหวะมากๆ ก็เลยเจอกับพายุฤดูร้อน ทำให้แผนการที่วางมาจำเป็นต้องพับเก็บไปอย่างน่าเสียดาย แต่ไม่เป็นไรค่ะเราไม่ย่อท้อกับการเที่ยวแน่นอน จึงของเปลี่ยนเส้นทางไปยังวัดโสมนัสทุ่มท่าแทน
วัดโสมนัสทุ่มท่า
วัดนี้ถือเป็นวัดชื่อดังของจังหวัดพะเยาอยู่ค่ะ ใครที่มาพะเยาก็มาแวะขอพร ขอโชค ขอหวยกับไอ้ไข่ได้ที่วัดนี้เลยค่ะ ขึ้นมาเหนือก็มาสักการะไอ้ไข่กันได้
ทางวัดมีพื้นที่จัดให้สักการะบูชาไอ้ไข่ และพระพุทธรูปตรงลานทางเข้าวัดเลยค่ะ มีชุดบูชา รวมไปถึงมีล็อตเตอรี่ขายให้เสร็จสรรพ ขอพรแล้วก็สามารถซื้อกันได้ตรงนั้นเลย
ด้านหลังของวัดจะมีจัดมุมทุ่งดอกทานตะวันไว้ให้ถ่ายรูปกันได้ค่ะ แต่เนื่องจากไปก่อนพายุมาแปปเดียว น้องๆดอกทานตะวันจึงโรยไปหมดแล้ว
แล้วก็มาถึงวันกลับจนได้มาเที่ยวกี่รอบๆก็รู้สึกว่าเวลาผ่านไปไวเหลือเกิน บางที่ยังเที่ยวไม่หนำใจเลยก็ถึงเวลากลับแล้ว ทริปนี้เพื่อนๆชาวแกงค์ลางานกันได้เท่านี้ ทริปหน้าเราจะพาเพื่อนๆไปเที่ยวกันให้ยาวนานและจัดเต็มสถานที่เที่ยวให้มากกว่านี้ และจะไปที่ไหนกันต่อนั้นฝากรอติดตาม ladies&GentelG ด้วยนะคะ
Comments