ต้อนรับเดือนสุดท้ายของปี ช่วงเวลาแบบนี้ต้องหาสถานที่ไป แคมป์ปิ้ง รับลมหนาวกัน พอพูดถึงความหนาวเย็น ทุกคนก็ต้องมุ่งเป้าขึ้นทางภาคเหนือใช่มั้ยค่ะ แต่ถ้าเราไม่อยากเดินทางไกลมาก ขอเวลาแค่ 3 ชม. จากกรุงเทพฯ สู่ จุดหมายปลายทาง " Ladies & Gentle G" ขอนำเสนอ จังหวัดสุพรรณบุรี นั้นเอง
อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นอำเภอที่อากาศค่อนข้างเย็นตลอดทั้งปี เพราะตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขา และ อ่างเก็บน้ำ พร้อมวิวพาโนรามาที่มองกี่ที่ก็ไม่เบื่อ แถวนี้มีลานกางเต๊นท์และที่พักให้เลือกหลายเจ้าค่ะ ส่วนของเราเลือกที่นี้เลย "ลานกางเต๊นท์ไร่แตงโมชายสิบ" ที่นี้มีบริการเต๊นท์ติดแอร์ เต๊นท์ธรรมดา บ้านไม่ไผ่ และ บ้านน็อคดาวน์ มีให้เลือกหลายแบบหลายราคา หรือ จะเอาเต๊นท์ไปกางเองก็ยังได้ สะดวกสบายสุดๆไปเลย
แต่ก่อนที่เราจะไปกางเต๊นท์ ขอแวะเที่ยว เยี่ยมชม และสักการะ 2 สถานที่ แถวอำเภออู่ทองกันก่อน
พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ
พระพุทธรูปางโปรดพุทธมารดาองค์ใหญ่ พระพุทธรูปแกะสลักหน้าผา และภายในถ้ำมีพระพุทธรูปแกะสลักตั้งอยู่เรียงราย สามารถทำบุญ จุดเทียน ถวายสังฆธานได้ภายใน บริเวณวัดมีลานจอดรถใหญ่กว้างขวาง พร้อมรองรับนักท่องเที่ยว จุดที่ชอบมากคือ อากาศที่เย็นสบายและวิวเขาด้านข้างของพระพุทธรูป ถ้าหากมาในช่วงหน้าน้ำ ตรงหน้าผาด้านขวาจะมีน้ำตกไหลลงมาด้วยนะคะ
TIPS: ขับตาม GooGle Map ได้เลย ใกล้ถึงจะมีสามแยกให้ชิดซ้ายเอาไว้เพราะต้องเลี้ยวซ้ายเข้าซอย แต่ถ้าเลยไม่เป็นไรค่ะ ซอยด้านหน้าสามารถขับทะลุผ่านได้ทั้งหมด
วัดเขาพระศรีสรรเพชญาราม
เดินทางออกมาไม่ไกลกันจะเห็นโบสถ์ตั้งอยู่บนยอดเขา เราเลยแวะสักการะรอยพระพุทธบาทกันที่วัดเขาพระศรีสรรเพชญารามกันค่ะ ด้านบนโบสถ์เป็นที่ประดิษฐานของรอยพระพุทธบาท ทางขึ้นไม่สูงมากค่ะ แต่บันไดด้านบนๆจะชันนิดนึง ไม่เหนื่อยเท่าไร คอนเฟิร์มค่ะ
ลานกางเต๊นท์ไร่แตงโมชายสิบ
ออกจากวัดมุ่งหน้าสู่ลานกางเต๊นท์ไร่แตงโมชายสิบ ใช้เวลาจากอำเภออู่ทอง ประมาณ 1 ชั่วโมง ก็จะถึงที่ไร่ค่ะ เนื่องจากเราเอาเต๊นท์มากางเอง เลยรีบเข้าไปที่ไร่เพื่อจับจองทำเลก่อน อย่างที่เกริ่นไว้ข้างต้นทางไร่มีที่พักให้หลายแบบให้เลือกนะคะ ใครที่กางเต๊นท์ไม่เป็น เค้าก็มีบริการจากทางไร่ เต๊นท์ของทางไร่พร้อมอุปกรณ์เครื่องนอนก็มี หรือใครจะไปช่วงหน้าร้อน เค้าก็มีบริการเต๊นท์ติดแอร์ด้วย รายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้ที่ ไร่แตงโมชายสิบ
เต๊นท์นำไปกางเอง 150฿/ ท่าน.
ทางไร่มีบริการ อาหาร และเครื่องดิ่ม ราคาเป็นกันเอง และ อร่อย
ไปถึงอย่างแรกคือไปเช็คอินกันก่อนเลยค่ะ เราจองไว้แล้วสามารถแจ้งชื่อกับที่เคาเตอร์ได้เลย หลังจากนั้นก็นำใบเสร็จเดินไปหาสถานที่จุดทำเลที่เราชอบ แจ้งกับเจ้าหน้าที่ จะให้นำรถเข้ามาจอดด้านในเพื่อเอาของลง เมื่อเสร็จแล้วรถเอาไปจอดที่ลานนะคะ จะมีลานจอดให้อีกที่นึงไม่ไกลจากจุดกางเต๊นท์
ส่วนห้องน้ำเป็นห้องน้ำรวม มีหลายห้องไม่ต้องกลัวจะแย่งกันเลยค่ะ สะอาดด้วย
เรื่องอาหาร ทางไร่มีบริการ สามารถสั่งไว้ก่อนแล้วแจ้งเวลาที่ต้องการได้เลย จ่ายเงินเก็บใบเสร็จเอาไว้ เมื่ออาหารเสร็จเจ้าหน้าที่จะโทรให้เรามารับของค่ะ อ่อ!! สามารถประกอบอาหารเองกันได้ด้วยน่ะ สำหรับใครที่ไปกันครอบครัวใหญ่ แต่ทางเรามากันไม่เยอะ สั่งทานเอาสะดวกกว่า
ในส่วนของวิวนั้นต้องบอกเลยว่า เต็ม 10 ให้ 100 เพราะสวยเกิน เกินไปมาก อากาศก็ดีลมเย็นโชยมาตลอด แถมกลางคืนนี้นี้สามารถพูดคำว่าหนาวได้เต็มปาก
นาเฮียใช้
พักผ่อนกันจนถึงสายๆก็ได้เวลาเก็บเต๊นท์เดินทางกลับกันแล้ว ก่อนที่เราจะมุ่งหน้าสู่กรุงเทพฯนั้นเราได้แวะเที่ยวที่ "นาเฮียใช้" ศูนย์เรียนรู้วิถีชีวิตและจิตวิญญาณชาวนาไทย ที่จำลองและเป็นแหล่งเรียนรู้การเพาะปลูกข้าวสายพันธุ์ต่างๆ มีเรือนไม้ หอเตือนภัยชาวนา ร้านขายของแบบสมัยโบราณ มีร้านอาหาร และคาเฟ่ และร้านขายของฝาก ให้บริการอีกด้วย คาเฟ่ที่นี้มีเมนูแปลกใหม่ไม่ซ้ำใครหลากหลายเมนู ใครไปเที่ยวสุพรรณบุรีก็อย่าลืมแวะเที่ยวชมที่ " นาเฮียใช้" กันนะคะ
ค่าใช้จ่ายของทริปนี้บอกตรงนี้เลยว่า ไม่เกินคนละ 1000 บาท รวมค่าอาหาร และค่าทำบุญแล้ว สถานที่เที่ยวทุกที่ที่เราไปไม่เสียค่าเข้าแต่อย่างใด ทริปนี้อาจจะไปหาที่เที่ยวน้อยไปหน่อย เพราะเราไม่ได้เข้าตัวเมือง และ เน้นเป็นทริปที่พักผ่อนแนวสโลว์ไลฟ์ เที่ยวไปชิวๆไม่เร่งรีบ สามารถติดตามพวกเราได้ที่ Ladies & GentleG หรือ Facebook สำหรับรีวิวก่อนๆ และ รีวิวต่อไปค่ะ