เช้าวันที่สองของทริปเขาใหญ่ของเรา หลังจากที่นอนหลับเต็มอิ่ม กินกันเต็มท้องกับอาหารเช้าของโรงแรมแล้ว
แผนการท่องเที่ยวของเราวันนี้คือ:
- ไร่ทองสมบูรณ์คลับ
- โรงแรม Hyde 198
ใช้เวลาไม่ถึง 20 นาที เราก็มาอยู่กันที่ไร่ทองสมบูรณ์คลับกันแล้วค่ะ มาถึงแล้วจอกรถเดินเข้ามาทางด้านหน้าจะมีที่ขายตั๋วให้เป็นตั๋วค่าเข้าในราคา 150 บาท เป็นค่าผ่านประตูและค่านั่งรถเข้าไปยังเครื่องเล่นนะคะ ระหว่างทางเดินไปขึ้นรถ จะมีฐานเล่นเกมส์อยู่หลายฐาน ได้แก่ และแต่งตัวคาวบอยไว้สำหรับถ่ายรูปค่ะ ฐานปืนเลเซอร์ ราคา150 บาท ขี่ม้า 150 บาท วัวกระทิง 100 บาท และ ฐานล่อนทอง 100 บาทค่ะ เดินตรงเข้าไปบริเวณที่ขึ้นรถก็มีฐานเล่นอีก แต่จำไม่ได้ว่าเป็นฐานอะไรนะคะ จากที่กล่าวมาทั้งหมด เราเลือกเล่นแค่อันเดียวนั้นคือขี่ม้าค่ะ
หลังจากขี่ม้าชมบรรยากาศกันไปแล้วเราก็มาขึ้นรถไฟชมวิว กินบรรยากาศ เย็นๆ สบายๆ ไปตามทุ่งหญ้าเขียวขจี นั่งไปซักพักก็ถึงฐานกิจกรรมด้านในค่ะ เราสามารถซื้อบัตรเล่นได้ที่ทางเข้า จะมีพนักงานมาอธิบายเครื่องเล่นและราคาค่าตั๋ว เราไปกันในวันธรรมดา จึงไม่มีบัตรราคาโปรโมชั่นเพราะว่าทางไร่มีจัดรายการบางเครื่องเล่นลดเหลือ 100 บาทค่ะ เราจะมารีวิวที่เราไปเล่นกันมาประมาณ 3-4 อย่างค่ะ
อย่างแรกที่เราเลือกเล่นคือ "ลูช" เครื่องเล่นชนิดนี้เป็นเหมือนรถของเล่นที่เราเล่นกันตอนเด็กๆไล่ลงไปตามทางลาดดชันที่แอบเสียวนิดหน่อย วิธีเล่นก็ง่าย กำเบรกเมื่อคุณคิดว่ามันเร็วเกินไป และช่วงโค้ง เมือลงไปถึงด้านล่างเราจะได้นั่งกระเช้าลอยฟ้ากลับมาโดยไม่ต้องซื้อบัตรเครื่องเล่นเพิ่มค่ะ นั่งกินลมชมวิวกันไปสบายๆ ก็จะกลับมาลงตรงจุดสตาร์ทค่ะ ในส่วนของบริเวณนี้จะมี 3 ฐาน คือ ลูซ กระเช้าลอยฟ้า และ รอกลอยฟ้า (รอก-ลอย-ฟ้า) ที่ต้องมีคำอ่านไว้เพราะว่าคุณเพื่อนดิฉันอ่านว่า รอ-กลอย-ฟ้า ค่ะ ก็เป็นเรื่องราวขำๆกันไปในระหว่างเดินทางเที่ยวนะคะ55555
อย่างที่สองที่เราไปเล่นคือ "ดรายสเลจ" เป็นเครื่องเล่นที่นั่งบนห่วงยางค่ะ แล้วทางไร่จะฉีดน้ำไปที่พื้นที่เป็นทางลาดชันแล้วเราก็ไหลลงไปตามทาง ราคาอยู่ที่ 100 บาท เล่นได้ 2 รอบค่ะ ใครมาที่ไร่แล้วขอแนะนำเลยนะคะ เพราะเป็นเครื่องเล่นที่สนุกจริงๆค่ะ ในช่วงปล่อยตัวคือจะเป็นฐานไฮโดรลิคยกเพื่อเทห่วงยางที่เรานั่งค่ะ ช่วงนี้คือจุดพีคที่สุดก็ว่าได้ ถ้าผ่านตรงนีไปได้ก็ไม่ค่อยเสียวแล้วค่ะ ขอแนะนำในการเล่นเจ้าเครื่องเล่นนี้คือ เกาะไว้ค่ะ เกาะห่วงยางให้แน่นป้องกันการตกของเราค่ะ
ในตอนแรกที่บอกว่าตรงพื้นของเครื่องเล่นมีน้ำ แต่ไม่ได้เปียกมากนะคะ เป็นน้ำที่ฉีดเป็นละอองเพื่่อไปหล่อให้ห่วงยางลื่นไหลลงมาได้เท่านั้นค่ะ
หลังจากเล่นดรายสเลจกันเสร็จเรียบร้อยอย่าเพิ่งเดินไปไหนไกล แวะพักจิบน้ำ ถ่ายภาพกับบรรยากาศสวยๆของไร่ทองสมบูรณ์กันก่อนค่ะ ราคาค่าเสียหายไม่แรงแถมยังได้ถ่ายรูปสวยๆวิวราคาหลักล้านอีกด้วย
อันต่อไปที่เราเลือกเล่นกันคือ"ล่องแก่ง"ค่ะ ใครเคยเล่นล่องแก่งที่สวนสยามอันนี้คือน้องๆของสวนสยามเลค่ะ มีที่เทเราลงน้ำอยู่สองจุดแบบไม่สูงหนึ่งจุด และแบบสูงหนึ่งจุด งานนี้ขอแอบกระซิบหน่อยว่าอาจจะมีเปียกกันบ้างนะคะ
TipS คนนั่งตรงกลางเปียกน้อยสุดค่ะ ที่เปียกหนักหน่อยจะเป็นคนหน้าสุด ตามด้วยด้านหลัง 1ล่องแก่งสามารถนั่งได้ 3 คนถ้วนนะคะ
แต่!ๆๆๆๆๆ ใครที่กังวลว่าข้าวของจะเปียก ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ ทางไร่มีบริการตู้ล็อคเกอร์ให้ตรงทางเข้าเครืองเล่นค่ะ ใส่ของล็อคแล้วเก็บกุญแจมาได้เลยโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมกันไปเลยจ้าาาาาาาาา
เล่นเครื่องเล่นกันจนสนุกเพลินแล้ว ก็เป็นคิวของท้องที่เริ่มว่างเรียกร้องอาหารมาเติมกะเพาะกันอีกแล้ว วันนี้เราไม่มีจุดมุ่งหมายในร้านอาหารตามรีวิวกันค่ะ เลยตกลงกันว่าอยากที่จะกินร้านอาหารที่เป็น Local เดินตกลงกันไปตกลงกันมา มาจบอยู่ที่ทางเข้าไปเล่นของเล่นที่ไร่นี้แหละค่ะ แวะทานส้มตำปูปราร้าพริกแห้งแซ่บๆ พร้อมข้าวเหนียวและไก่ทอด ราคาจับต้องได้ ส้มตำเพียง 50 บาท ไก่ทอด 150 บาท เท่านี้ก็เพียงพอให้เดินทางเข้าโรงแรมกันต่อแล้วค่ะ
ขับรถออกมาจากไร วิ่งเข้าเส้นเขาใหญ่ตาม Google Maps เข้าโรงแรมกันเลยยยยยย
โรงแรมที่เราจองมาชื่อว่า "HYDE198 Khao Yai" ทุกคนค่ะ นี้ไม่ได้ค่าสปอนเซอร์จากโรงแรมแต่อย่างใด แต่จะบอกว่าถ้าใครหาทราพักแถวเขาใหญ่อยู่ที่นี้เป็นอีกตัวเลือกนึงที่ไม่ควรพลาด จองผ่านทางเว็บไซต์ รูปในเว็ปเป็นยังไง รูปของจริงคือเหมือนในรูปเป๊ะค่ะ ห้องที่เราเลือกเป็นห้อง mountain view ที่สามารถมองออกไปเจอภูเขาและธรรมชาติสวยงามมากค่ะ นอกจากนั้นทางโรงแรมยังมีสระว่ายน้ำ เครื่องดื่มและอาหารไว้คอยให้บริการอีกด้วย
ในวันนี้เราเลือกที่จะลงไปเล่นน้ำ นอนเล่นในห้อง และนอนแช่อ่างอาบน้ำอย่างสบายอารมณ์กันให้เหมาะกับทริปพักผ่อน ขอแนะนำอีกนิดว่าอย่าลืมซื้อเบียรมานั่งจิบกันชิวๆและนั่งชมวิวกันในห้องนะคะ
วันที่สองของ #ทริปยาจก ของเราก็หมดไปเท่านี้ พรุ่งนี้เราจะแวะไปกับหนึ่งที่เช็คอินที่ควรไม่ควรพลาดและจะตีรถขึ้นไปกินส้มตำที่ทั้งอร่อย คุ้ม และราคาไม่แพง กันที่พิมาย ก่อนจะมุ่งตรงสู่กรุงเทพกันค่าาาา
เวลาแห่งความสุขจะผ่านไปเร็วเสมอ สมองเพิ่งจำได้ว่าเพิ่งจะวางแผน เก็บกระเป๋า จองห้องพัก ผ่านไปแปปเดียวก็ถึงวันสุดท้ายที่จะได้พักผ่อนกันแล้ว วันนี้เราตื่นกันแต่เช้าแต่ไม่เช้าตรู่ออกไปนั่งทานอาหารที่ทางโรงแรมจัดเตรียมไว้ให้ อย่างที่บอกนะคะเรามาในวันธรรมดา คนเลยจะน้อยเป็นพิเศษ หรือพูดง่ายๆคือมีเราอยู่ห้องเดียวทั้งโรงแรมนะคะ55555 ที่ทานอาหารเช้าอยู่ชั้น 2 ของที่เราเช็คอินค่ะ สามารถนั่งด้านนอกและด้านในได้ แต่เนื่องจากเมื่อคืนฝนตกด้านนอกเลยเปียกแฉะพอสมควร เราจึงเลือกนั่งด้านในกันค่ะ
เดินเข้ามาด้านในจะมีโต๊ะวางของทานเอาไว้ให้เหมือนบุฟเฟต์ น่าจะไว้สำหรับช่วงวันหยุด ที่มีแขกมาพักหลายๆห้อง แต่ก็ยังมีวางขนมปัง ชา กาแฟ ให้เราได้เลือกทานกันค่ะ ทางโรงแรมมีสามเมนูให้เราเลือกกันคือ 1.ข้าวต้มหมู 2.American breakfast และ 3. ไข่กระทะ ในสามอย่างนี้เราสามารถสั่งเพิ่มได้เรื่อยๆแต่มีข้อแม้ว่าต้องทานจากแรกให้หมดก่อนนะคะ ด้วยความที่พวกเราอยากกินข้าวต้มร้อนๆ เลยเลือกข้าวต้มมาสามชามเลยค่ะ แล้วจึงสั่งไข่กระทะต่อ ก็แอบงงกันเองนิดๆว่าทำไมไม่เลือกลองเอามาชิมกันคนลัอย่างก็ไม่รู้55555 ยังค่ะ!! เซ็ทอาหารเช้าของเรายังไม่หมดเพียงเท่านี้ ทางโรงแรมจะเริฟพร้อมกับ สลัด และผลไม้ด้วยค่าาาาา
แผนการเดินทางวันที่3:
- Chocolate Factory
- ส้มตำร้านเด็ด จังหวัดพิมาย
กินกันอิ่มท้องแล้วก็ได้เวลาออกเดินทางค่ะ ระหว่างทางเราแวะ Chocolate Factory กันค่ะ ที่ร้านมีช็อคโดแลตหลากหลายรูปแบบให้เลือกซื้อเลือกชิมกันค่ะ เราสามคนเลือกซื้อเค้ก ช็อคโกแลตก้อน และขึ้นไปทานน้ำช็อคโกแลตปั่นกันที่ชั้นสองค่ะ
สำหรับรสชาติช็อคโกแลตนั้นต้องบอกเลยว่าถูกใจสาวกคนรักช็อคโกแลตแน่นอน เพราะช็อคโกแลตที่นี้มีความนุ่ม ละมุนลิ้นมากๆค่ะ บอกได้เลยว่าอร่อยทุกอย่างค่ะ นอกจากนั้นทางร้านยังมีขายผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ทำมาจากช็อคโกแลตด้วยนะคะ ใครสนใจในตรงนี้ก็ลองไปแวะดูแวะชมแวะทานกันได้เลยค่าาาา
ทานช็อคโกแลตจนเมาและอารมณ์ดีกันไปแล้ว เราสามคนมุ่งหน้าสู่พิมาย อีกเมืองนึงที่อยู่ในจังหวัดโคราช ระยะทางจากเขาใหญ่สู่พิมายใช้เวลาประมาณ 2 ชม. จนไปถึงร้านส้มตำรสเด็ดที่หลายคนคงสงสัยว่าทำไมต้องขับรถจากเขาใหญ่มาทานส้มตำกันที่นี้
ร้านส้มตำเป็นร้านแบบLocal ค่ะ ทางเข้าจะยากหน่อยสำหรับคนที่ไม่ชินพื้นที่นะคะ เราจะใส่ Location ไว้ให้เพื่อใครผ่านไปอยากแวะกันนะคะ เราสั่งส้มตำกันไปสองอย่างค่ะคือ ตำปูปราร้า กับ ตำกุ้งสด ข้อแนะนำคือทานกับหนังหมูและแคบหมูจะอร่อยนัวมากค่ะ นอกไปจากนั้นทางร้านยังขาย ก๋วยเตี๋ยวเรือ และ น้ำแข็งใสโบราณด้วยนะคะ เป็นน้ำแข็งใสเคริ่องเหมือนทั่วไป แต่!!! น้ำราดจะเป็นน้ำกะทิห๊อมหอมค่ะ ใครที่มาทานส้มตำแล้วเผ็ด สมารถดับเผ็ดได้ด้วยน้ำแข็งใสกะทิได้เลยค่าาา
สำหรับส้มตำที่เราสั่งกันมานะคะรสชาติแบบสามรอร่อยถูกใจมากๆค่ะ เครื่องคือแน่นอย่างตำกุ้งสดมีกุ้งตัวใหญ่ประมาณ 6 ตัวค่ะในราคา 100 บาทเท่านั้น แต่ที่แนะนำก็จะมีตำทะเล ตำป่า ตำโคราชค่ะ บางตำใส่เม็ดกระถิน ใส่สายบัวด้วยนะคะ
โลเคชั่นร้านส้มตำเมืองพิมาย: ก๋วยเตี๋ยวผโกเด้งส้มตำเจ้ศร
เลขที่ 71/2 หมู่ 15 หมู่บ้าน บ้านโจด Nong Ra Wiang, Phimai District, Nakhon Ratchasima 30110
080 484 4464
https://maps.google.com?q=%E0%B8%81%E0%B9%8B%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B5%E0%B9%8B%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%9C%E0%B9%82%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B9%89%E0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%A8%E0%B8%A3%20%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%82%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%2071/2%20%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B9%88%2015%20%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%20%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%88%E0%B8%94%20Nong%20Ra%20Wiang,%20Phimai%20District,%20Nakhon%20Ratchasima%2030110&ftid=0x31193fae00834be9:0x89f879130d90a3d1&hl=en-TH&gl=th
รวมค่าใช้จ่าย:
- ค่าที่พัก 2 ที่ รวมอาหารเช้า+ค่า Extra bed: 5,392฿
- ค่าน้ำมัน กรุงเทพฯ-เขาใหญ่-พิมาย-กรุงเทพฯ : 1,500฿
- ค่ากองกลาง (ค่ากิน-ค่าเข้าไร่ทองสมบูรณ์และค่าเล่น) : 3,500 ฿
รวมค่าใช้จ่ายตลอดทริป 10,392 ฿
เฉลี่ย 3,464 ฿ ต่อคน
และแล้วก็จบไปอีกกับหนึ่งทริปชิวๆสบายๆ เที่ยวกันได้ภายในประเทศในราคาสบายๆกระเป๋า ทริปหน้าเราจะไปกันต่อที่ไหน ติดตาม #ทริปยาจก ของเราได้ในเพจและบล็อคได้เลยนะคะ