ช่วงว่างๆก่อนหน้านี้ นั่งๆนอนๆอยู่แต่บ้าน ไม่มีอะไรให้ทำมากเลยหานิยายอ่านเล่นๆแก้เหงา ไปเจอนิยายเรื่องนึง คนเขียนแต่งดีมากๆอ่านแล้วอ่านอีก เพราะว่าอินจัดๆ อินทั้งตัวละคร อินทั้งสถานที่ อินทั้งบรรยากาศในเรื่อง เลยเกิดมาเป็น One Day Trip แบบตามรอยนิยายค่ะ เป็นการเที่ยวหลายหลายสถานที่แบบใหม่ไปเรื่อยๆ ก็สนุกไปอีกแบบ ใครที่มีนิยายในดวงใจก็ลองวางแผนไปตามรอยกันดูน่ะ แต่ถ้ายังไม่อยากวางแผนมาลองเที่ยวตามรีวิวนี้ก่อนได้เลยจ้าาาาๆ
Trip plan
หอสมุดแห่งชาติพระนคร
ท่าพระอาทิตย์
วังบูรพา
ถนนทรงวาด
เยาวราช
หอสมุดแห่งชาติพระนคร
เราเริ่มต้นการเดินทางด้วยการนั่งรถเมล์ค่ะ ขึ้นจากอนุเสาวรีย์ ฝั่งราชวิถี ใครที่มาด้วย BTS ลงที่สถานี อนุเสาวรีย์ เดินออกมาตาม Skywalk เจอสามแยกแล้วเลี้ยวซ้าย เดินมารอรถเบอร์ 12 ป้ายรถจะอยู่ตรงเซเว่นเล็กๆที่อยู่ตรงเกาะค่ะ ค่ารถเมล์เพียง 10 บาทเท่านั้น เป็นรถสีส้ม คันเล็กนะคะ ปลายทางอยู่ที่ " วังสวนกุหลาบ" ค่ะ ใครไม่ทราบเส้นทาง ถามกระเป๋ารถเมล์ได้เลยนะคะ กระเป๋ารถเมล์ใจดีบอกที่ลงให้เรียบร้อยเสร็จสรรพเลยค่าาา รถเมล์จะเดินรถผ่านถนนราชวิถี และมาเลี้ยวเข้าถนนนครราชสีมา
เมื่อลงจากรถเมล์แล้วเดินข้ามถนนมาเข้าซอยข้างสโมสรทหารบก เดินจนมาทะลุอีกถนนนึงเลี้ยวขวาเราจะเจอหอสมุดอยู่ฝั่งตรงข้ามเราค่ะ
เข้าไปด้านในใครที่มาครั้งแรกให้เตรียมบัตรประชาชนไว้ด้วยเพื่อลงทะเบียนนะคะ ในครั้งต่อไปก็บอกแค่เบอร์โทรศัพท์ค่ะ (ทุกภาพสามารถกดเลื่อนชมรูปต่อไปได้นะคะ)
ด้านในของหอสมุดคือเงียบสงบมากๆเหมาะสมกับการมาหาความรู้อ่านหนังสือจริงๆค่ะ หอสมุดมี 5 ชั้นนะคะ แต่ละชั้นก็จะแบ่งออกเป็นหลายโซน มีหน้าจอให้บริการข้อมูลอยู่ สามารถไปกดดูได้เลยค่ะ
ชั้น4 : เป็นชั้นที่เก็บพวกหนังสือพิมพ์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเลยค่ะ มีทุกสำนักพิมพ์ ทั้งภาษาไทยและต่างประเทศ
ชั้น3: เป็นชั้นสำหรับอ่านหนังสือ และ หนังสือหายาก หนังสือเก่าๆ
ชั้น2: เป็นชั้นสำหรับอ่านหนังสือเหมือนกันค่ะ
ใครที่เป็นหนอนหนังสือ คือควรค่าแก่การมาที่นี้มากๆค่ะ สะดวกสบายมีมุมนั่งอ่านหนังสือดีๆ มีหนังสือให้เลือกอ่านจะว่าทุกประเภท ทุกหมวด เลยก็ว่าได้ ที่สำคัญคือฟรีนะคะ นั่งอ่านได้ไม่จำกัดชม.กันไปเลย
ท่าพระอาทิตย์
ออกจากหอสมุดแห่งชาติข้ามถนนกลับมารอรถเมล์ ถามพี่ๆรปภ.บอกว่าให้นั่งสายไหนก็ได้ยกเว้นสาย 16 สามารถไปลงแถวถนนพระอาทิตย์ได้หมดค่ะ เราจำไม่ได่ว่าขึ้นสายไหนมา 5555 นั่งมาตรงๆ ผ่านย่านบางลำภู ผ่านห้างตั้งฮัวเส็งบางลำภูมาลง ที่หน้าวัดชนะสงครามค่ะ ให้เดินทะลุผ่านวัดไปได้เลยจะไปออกที่ถนนพระอาทิตย์พอดีค่ะ
เดินออกมาจากซอยเลี้ยวขวาขึ้นไปจะเจอกับสวนใหญ่ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีป้อมพระสุเมรุตั้งอยู่ เข้าไปนั่งกินลมชมวิว ถ่ายรูปวิวก็สวยค่ะ แถมอากาศดีลมเย็นอีกด้วย
ในตอนแรกเราวางแผนจะนั่งเรือไปลงแถวท่าพระจันทร์ค่ะ แต่ด้วยไม่มีเรือด่วนและต้องรอเรือตั้ง 25 นาที เราเลยตัดสินใจเดินไปกันค่ะ ระหว่างทางก่อนจะถึงท่าเรือก็ไปเจอกับ "หอศิลป์ ณ บ้านเจ้าพระยา" เลยขอแวะเสพงานศิลป์กันซักหน่อยก่อนเดินทางกันต่อ ขอบอกว่าด้านในมีมุมสวยๆให้ถ่ายรูปเยอะเลยนะคะ
เดินต่อมาตามถนนระอาทิตย์จะมีร้านอาหารอยู่ตามริมทางให้เลือกแวะเลือกชิมกันตามอัธยาสัยเลยค่า ส่วนเราเข้าร้านน้ำ กับ ของเด็ดแห่งถนนพระอาทิตย์ ก๋วยจั๊บญวนคุณแดง นั้นเองงงงง
อาหารอร่อยราคาไม่แพงค่ะ
เติมพลังกันแล้วก็มาเดินใช้พลังงานกันต่อ เราเดินกันไปจนสุดถนนพระอาทิตย์เลย ไปจบที่ใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าเพื่อรอขึ้นรถเมล์ไปวังบูรพากันต่อค่ะ รถที่เราขึ้นคือสาย 3.ค่ะ ผ่านถนนหน้าพระธาตุ เข้าถนนหน้าพระลาน และ ถนนมหาราช แถวนี้คือผ่านสถานที่สำคัญๆเยอะค่ะ อย่างเราตามจากในนิยายคือผ่านราชนาวีสโมสร และ สถานีตำรวจนครบาลพระราชวังตอนเลี้ยวเข้าถนนสนามไชย แล้วไปผ่านหน้า ดิโอลด์พลาซ่า ก่อนที่เราจะไปลงที่แถว MRT สามยอด หรือ ป้ายรถเมล์สินดำรงค์ ตรงนี้แถวนี้ถ้าใครจะนั่งรถไฟมาทีเดียวก็สะดวกนะคะ มาถ่ายรูปเอาบรรยากาศเพราะเป็นสถานีรถไฟที่ทำได้สวย เข้ากับตึกแถวนั้นได้ดีจริงๆ
วังบูรพา
เดินจากสถานีสามยอดเลี้ยวขวามาทางเลียบถนนมหาไชย เดินมาเรื่อยๆจะมาเจอ วังบูรพาการแว่น ถ้าตามรอยนิยายเป๊ะๆจะเรียก หอแว่นวังบูรพา มาเจอบรรยากาศเก่าๆแบบนี้ยิ่งฟินเข้าไปอีกกกกกกก และไม่หมดไปแค่นั้นค่ะ ข้ามถนนไปฝั่งตึกสีน้ำเงิน จะมีร้านรถเข็นขายขนมบาเยียอยู่ค่ะ นี้แหละค่ะ สาเหตุที่แท้จริงของการที่่มาวังบูรพา อิงมาจากนิยายเหมือนเดิมเพราะตัวเอกทานขนมชนิดนี้ เป็นขนมที่เพิ่งจะเคยได้ยินชื่อ เลยต้องขอมาลองชิมซักหน่อย จะเป็นขนมถั่วเอาไปกวนแล้วเอาไปทอด ทานคู่กับน้ำจิ้มเหมือนน้ำจิ้มถั่ว กับ พริกทอด อร่อยไปอีกแบบค่ะ ใครผ่านไปแถวนั้นไปลองทานกันได้นะคะ
ถนนทรงวาด
จากวังบูรพาเดินมาตามถนนเยาวราชระหว่างทางก็เจอกับ "เวิ้งนครเกษม" เท่าที่อ่านนิยายมาคือเป็นร้านขายเครื่องดนตรีของเพื่อนพระเอก แต่ที่เราเดินผ่านมันเหมือนเคยเป็นชุมชนตึกแถวกันแต่ไม่รู้ว่ามีอะไรขายบ้างเพราะสภาพก็ดูร้างๆแล้วค่ะ
ต่อจากนั้นเดินเข้าซอยถนนมังกร ผ่านสำเพ็งนิดหน่อย ทะลุถนนมังกรมาก็จะเจอกับถนนทรงวาดทั้งเส้นถนนเลยค่ะ ถามว่าเธอไปทำอะไรที่ถนนทรงวาด ถ้าพูดตรงๆก็ตามนิยายนั้นแหละ เพราะเป็นที่ตั้งของบ้านตัวละครหลัก เราก็แบบอยากจะซึมซับบรรยากาศเวลากลับไปอ่านนิยายต่อให้มันเห็นภาพได้ง่ายยิ่งขึ้น แต่สำหรับใครที่ไม่เคยอ่านนิยายมา จะขอบอกว่าถนนทรงวาดเป็นถนนที่มีบ้านตึกแถวเก่าๆ สำหรับเราคือมันสวยอ่ะทุกคน สวยแบบคลาสสิก เหมาะกับถ่ายรูปอย่างยิ่ง
เยาวราช
ดื่มดำกับการถ่ายรูปเต็มที่เราก็เดินตาม GOOGLE MAP เดินเส้นทางไหนไม่รู้ไปโผล่อีกทีที่แถววัดมังกร ก็แวะสักการะกันซักหน่อย ตรงข้ามวัดมังกรจะมีซอยขายพวกของแห้งของจีนทั้งซอยเลยค่ะ ลองแวะเข้าไปดู ราคาก็ไม่ได้แพงมากค่ะ เดินมาเลย China Town ไปหน่อยจะร้านขายอาหารเต็มข้างทางเลยค่ะ เลือกชิม เลือกช้อปกันได้ตามอัธยาสัย ยังแอบเสียดายนิดๆที่ตอนนี้ไม่มีรถรางแล้วนะคะ ถ้ามีนี้คงจะดีน่าดู
จากแค่การอ่านนิยายก็ทำออกมาเป็น One Day Trip สถานที่เที่ยวได้อีกหนึ่งวัน ปกติการมาเที่ยวแถวนี้เราก็จะมาเป็นที่ๆไปเลย แล้วก็เจาะจงไปเยาวราชอย่างเดียวเลยเพราะได้ทั้งเที่ยวได้ทั้งหาของกิน
รอบนี้ก็ยังได้ไปที่ใหม่ๆ เปลี่ยนสถานที่ด้วย แถมยังได้ความฟิน อินกับนิยายเพิ่มเข้าไปอีก การวางแผนเที่ยวแบบนี้ก็สนุกไปอีกแบบนะคะ
การเที่ยวครั้งต่อไป จะไปไหน หรือ จะไปอินกับอะไรอีกนั้น ติดตามได้ในเพจเฟซบุ๊ค และ Blockdit ชื่อเพจ Ladies & GentleG ได้เลยค่าาาา